ฉันท์ ลิขิต ๔ ประการ

ฉันท์ ลิขิต ๔ ประการ
ลิขิตสี่ประการ         ชีวิตขานริขีดเขียน
เจตนาหาพากเพียร    ตั้งใจเจียรเตือนให้เป็น
ข้อหนึ่งท่านว่าไว้      อิสรวิสัยนั่นไม่มี
คือความบังเอิญนี้      หาไม่มีในโลกา
ทุกข์เศร้าสุขโศกสันต์   หฤหรรระคนมา
ไม่มีใครก้าวเข้ามา     เดินยาตราโดยบังเอิญ
กรรมเก่าเท่าประเด็น   กระทำเป็นกรรมนำพา
ผ่านไปหรือผ่านมา     กรรมมาตรากรรมชักนำ
เข้ามาจะคว้าไว้       หรือปล่อยไปธรรมดา
ทุกสิ่งตามประสา      มีเข้ามามีออกไป
ข้อสองไตร่ตรองไว้    เกิดอะไรย่อมเกิดขึ้น
ขมขื่นหรือหวานชื่น    เช้าค่ำคืนย่อมเป็นไป
ต้องใจหรือมิต้อง      อย่าไตร่ตรองจงหลีกเว้น
อดีตชอบหรือลำเค็ญ   บ่เคี่ยวเข็ญระเอียดความ
รู้ไว้แต่อย่าแบก        ดุจไฟแผกลุกเผาผลาญ
พัดเป่าจะยิ่งลาม      จงหาน้ำมาดับไฟ
จะเกิดก็ต้องเกิด       คิดระเมิดหลีกหนีไกล
มิอาจเป็นอีกอื่นใด     เป็นอย่างไรก็ย่อมเป็น
อย่าจมปักกับอดีต     จงเขียนขีดปัจจุบัน
อนาคตนั้นช่างมัน      เดี๋ยวสักวันมันก็มา
ข้อสามความดำริ      ทุกสิ่งนี้มีเวลา
ไม่รวดเร็ว ฤ เชื่องช้า  ตามเวลาวันของมัน
รีบเร่งให้เร็วขึ้น         เร่งให้คืนเป็นกลางวัน
สุดกำลังมิเกิดพลัน     ต้องรอมันให้เป็นเอง
ลากอาทิตย์ให้ขึ้นเร็ว   ลากลงเหวให้พระจันทร์
จะเกิดอย่างไรนั้น      เรื่องของมันตามเวลา
เดินช้าใช่ไม่ถึง        จะฉุดดึงเสียกำลัง
เร็วไปหมดพลัง        ไม่ถึงฝั่งกันพอดี
วิ่งเร็วย่อมถึงเร็ว      ชักช้าเดี๋ยวท้อก็มี
หย่อนตึงปะปนมี       ย่อมถึงที่ตามเวลา
ข้อสี่ท่านให้คิด        ว่าชีวิตไม่ยืดเยื้อ
ถึงเวลาก็ไม่เหลือ      ไม่กูลเกื้อเยื้อเวลา
จบแล้วก็คือจบ        เหมือนประสพพบความตาย
ตายแล้วก็คือตาย      ยืดไม่วายตายอยู่ดี
ถึงที่ตายยากจะเยื้อ    ประดุจเรือที่พุพัง
ลอยกลางน้ำใช่โกดัง   สุดจะนั่งรอวันจม
ลิขิตนี้คือชีวิต         รู้ลิขิตให้ขีดเขียน
ส่องทางดุจแสงเทียน   ค่อยๆเพียรเขียนปัจจุบัน
                           ธรรมจิต สวัสดี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น